รีวิวเที่ยวเวียดนามเหนือ แนะนำ 15 ที่เที่ยวซาปา-ฮานอย

หากเล็งไว้ว่าอยากไปเที่ยวเวียดนาม แต่อยากสัมผัสอากาศดีสัมผัสความเย็นสบาย แนะนำให้มาเที่ยวเวียดนามเหนือ “เวียดนาม”หนึ่งในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีเสน่ห์สุดๆ ของบ้านเรา เชื่อว่าหลายคนต้องนับรวมเอาเวียดนามเข้าไปไว้ในลิสต์ด้วยแน่ๆ เชียวละ เพราะนี่คือประเทศซึ่งมีพิกัดหลากหลายให้แวะเช็คอินกันได้แบบจุกๆ เลยจ้า หนึ่งในพิกัดยอดฮิตของคนที่รักธรรมชาติและอากาศหนาวๆ ของเวียดนามน่ะ ต้องยกให้เมืองซาปามาแบบยืนหนึ่งเลยนะ วันนี้เราเลยจะขอชวนขึ้นไปเที่ยวเวียดนามเหนือในเส้นทางฮานอย – ซาปา กับ 15 พิกัดเด็ดที่น่าเช็คอินแบบสุดๆ เชียวละ

15 ที่เที่ยวเวียดนามเหนือ

1. Fansipan

หนึ่งในพิกัดที่เที่ยวเวียดนามเหนือที่หากไม่ได้มาเช็คอินก็เหมือนยังมาไม่ถึงซาปา ก็คือการมาสูดอากาศบนยอดเขาฟานซิปันที่ความสูง 3,143 เมตรนี่ละ นี่คือภูเขาที่สูงที่สุดของเวียดนามและยังสูงที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีนอีกด้วยนะ ในอดีตอาจจะต้องเดินขึ้นเขากันประมาณ 9 กิโลเมตรเพื่อขึ้นมาบนยอดเขาแห่งนี้ แต่ปัจจุบันมีกระเช้าไฟฟ้าพาขึ้นไปเที่ยวกันได้แบบชิลล์ๆ แล้วละ ระหว่างทางยังมีวิวสวยๆ ให้ชมกันไปเพลินๆ ด้วยนะ แต่ถ้าใครเป็นสายลุยอยากเทรกกิ้งขึ้นฟานซิปันก็ทำได้จ้า เพียงแต่ต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางไปด้วยนะ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 วัน 1 คืนจ้ะ เลือกเลยว่าอยากโดนแบบไหน

2. Muong Hoa Valley

สำหรับคนที่อยากดูผืนนาขั้นบันไดแต่ไม่อยากเดินทางไปไกลนัก อยากชวนให้ไปปักหมุดที่นี่กันเลยจ้า เพราะที่หุบเขานี้มีผืนนาขั้นบันไดซึ่งรายล้อมไปดวยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าให้ได้พักสายตากัน นี่คือผืนนาขั้นบันไดที่อยู่บนความสูงประมาณ 1,000 เมตร กินเนื้อที่รวม 6 ตำบล ประมาณ 8 ตารางกิโลเมตร และนับเป็นผืนนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดของซาปาเลยจ้า เพิ่มความสวยปังด้วยการมีลำน้ำฮวาความยาว 15 กิโลเมตรไหลผ่านหุบเขาแห่งนี้อีกด้วยนะ สายเขียวชอบวิวสบายตาต้องมาเที่ยวเวียดนามเหนือ แล้วมาที่นี่เลย

แผนที่

3. The Ancient Stone Church

โบสถ์หินสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองซาปาที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1895 อายุอานามก็ปาเข้าไปเกินร้อยปีแล้วละ ตอนกลางวันก็สวยคลาสสิกเรียบง่าย แต่ในช่วงกลางคืนจะเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีกสเต็ปด้วยการประดับประดาแสงไฟหลากสี ด้วยความโดดเด่นสะดุดตาทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์คที่ผู้คนมักจะใช้เป็นจุดนัดพบกันด้วยนะ รอบโบสถ์ยังมีตลาดกลางคืนให้ไปเดินเล่นกันได้ด้วย

4. Cat Cat Village

หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นพิกัดที่มีวัฒนธรรมชนเผ่าม้งดำให้เราได้เยี่ยมชมกัน ด้วยความที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองซาปาเพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี่จึงมักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย แต่อาจจะเหมาะกับคนที่เป็นสายเดินซักหน่อยนะ เพราะหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขาเมืองหัวซึ่งรายล้อมด้วยผืนนาขั้นบันได นอกจากวิวแล้วเรายังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวม้งดำ ได้ชมการแสดงประจำถิ่น และได้ฟินกับการช้อปปิ้งข้าวของแฮนด์เมดทั้งหลาย ไปซาปาเมื่อไหร่ต้องปักหมุดเอาไว้เด้อ

แผนที่

5. Night Market

แม้จะเป็นเมืองในหมอกกลางหุบเขาที่ดูสงบเรียบง่าย แต่ซาปาในยามค่ำคืนนั้นคึกคักไม่แพ้ใครเลยเชียวละ เพราะที่นี่มีตลาดกลางคืนซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของแปลกตาจากสารพัดชนกลุ่มน้อยที่อยู่รอบด้าน บอกเลยว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งงานแฮนด์เมดเลยจ้า และนอกจากบรรดาข้าวของเครื่องใช้ ที่นี่ยังมีอาหารรวมถึงเครื่องดื่มในสไตล์ท้องถิ่นให้สายกินได้ฟินกับการลองชิมกันแบบจุกๆ เลยจ้ะ มาซาปาทั้งที ต้องไม่พลาดการมาชิมเนื้อวัวและแซลมอนของที่นี่กันด้วยนะ ทั้งชิมทั้งช้อปกันเพลินเชียวละ เป็นอีกพิกัดที่มาแล้วต้องโดน

6. Silver Water Fall

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของซาปาที่ควรแวะมาเช็คอินกัน ก็คือน้ำตกบนความสูง 1,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลแห่งนี้ ตัวน้ำตกมีความสูงกว่าร้อยเมตรจึงสามารถมองเห็นได้แต่ไกล ด้วยความที่สายน้ำซึ่งไหลคดเคี้ยวลงมาตามผาสูงนั้นมีละอองสีขาวสะอาดตา หลายคนจึงจินตนาการว่าน้ำตกนี้แลดูคล้ายกับมังกรสีเงินตัวใหญ่บนหน้าผาเลยนะ แม้ว่าจะต้องเดินขึ้นบันไดกันพอขาล้า แต่ก็เชื่อว่าความสวยของที่นี่จะคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

7. Mu Cang Chai

ส่งท้ายซาปากันด้วยพิกัดที่อาจจะอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปซักนิด เป็นที่เที่ยวเวียดนามเหนือที่รับรองว่าตื่นตาตื่นใจแบบลืมไม่ลงแน่นอนจ้ะ มูกางจ๋ายนั้นอยู่ห่างจากเมืองซาปาไปประมาณ 156 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางกันแบบยาวๆ ราว 5 – 6 ชั่วโมงเลยเชียวละ ที่มูกางจ๋ายนั้นมีผืนนาขั้นบันไดซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยนะ ผืนนาของที่นี่นั้นจะอยู่บนภูเขาสูงที่สลับซับซ้อนกว้างไกลสุดสายตา ถ้าอยากชมความสวยของมูกางจ๋ายให้ทั่วถึง ควรใช้วิธีแว้นรถบึ่งเที่ยวกันจ้ะ ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นอาจจะต้องลองติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับพาซ้อนเที่ยวเอานะ ยากซักนิดแต่รับรองว่าประทับใจแน่นอน

8. ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake)

แลนด์มาร์คหลักใจกลางเมืองฮานอยที่มาถึงแล้วพลาดไม่ได้ ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมหรือชื่อแบบไทยๆ ว่าทะเลสาบคืนดาบนั้นมาพร้อมกับตำนานดาบวิเศษและเต่ายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้นี่ละ ตรงกลางทะเลสาบมีเจดีย์โบราณตั้งตระหง่านเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ด้วยนะ เจดีย์นี้สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 18 จ้า ว่ากันว่าเคยมีเต่าเพศเมียตัวใหญ่อาศัยอยู่ตรงเจดีย์นี้ หลายคนจึงเชื่อว่าเต่าตัวนี้เป็นร่างอวตารของเต่าศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั่นละ มาเดินเล่นช่วงเช้าหรือเย็นก็ชิลล์จ้า ช่วงค่ำๆ ก็แปลกตาด้วยแสงไฟที่ประดับประดาสวยไปอีกแบบนะ มาแล้วต้องแวะเช็คอินให้ได้เชียว

9. อ่าวฮาลอง (Halong Bay)

หนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศเวียดนามซึ่งมีทิวทัศน์งดงามน่าประทับใจ ฮาลอง เบย์ นั้นมีพื้นที่โดยรวมประมาณ 1,500 ตารางกิโลเมตร และทั่วทั้งบริเวณอ่าวนั้นเต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาถึงประมาณ 1,969 เกาะเชียวนะ แถมยังมีพิกัดให้แวะมาเที่ยวกันได้หลายแห่งอีกด้วยจ้า จะให้ชิลล์สุดๆ แนะนำให้มาล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันในอ่าวฮาลองด้วยเลยนะ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวเวียดนามเหนือที่อยากให้มาสักครั้ง

10. Thang Long Water Puppet Theater

หนึ่งในการแสดงที่ถือเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของชาวเวียดนามที่มาแล้วอยากชวนให้ไปชมกัน ก็คือการมาดูหุ่นกระบอกน้ำอันเป็นโชว์เก่าแก่ของประเทศนี้นี่ละจ้า โรงละครหุ่นกระบอกน้ำแห่งนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ.1969 เลยนะ แต่ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 11 นั้น หุ่นกระบอกน้ำเค้าเล่นกันกลางแม่น้ำเลยละ บอกเลยว่าเป็นโชว์หุ่นกระบอกซึ่งแตกต่างจากในบ้านเราโดยสิ้นเชิงเลยนะ แถมยังมีวิธีการเชิดหุ่นที่น่าสนใจสุดๆ จ้า ถึงจะเป็นการแสดงเก่าแก่แต่เค้าก็มีเอฟเฟคท์น่าตื่นตาตื่นใจให้ว้าวกันพอประมาณเลยเชียวละ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มาฮานอยแล้วต้องไปโดน

11. St.Joseph Cathedral

โบสถ์คริสต์เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ใจกลางกรุงฮานอยแห่งนี้ ได้รับอิทธิพลของรูปแบบสถาปัตยกรรมมาจากมหาวิหารนอร์ทเทรอดามที่เมืองปารีสของฝรั่งเศสนั่นเองจ้า นอกจากจะเป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดของฮานอยแล้วนะ ที่นี่ยังนับเป็นโบสถ์ซึ่งเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนามด้วยละ ที่เริ่ดคือนอกจากจะสวยจนไม่ควรพลาดการมาถ่ายรูปเช็คอินกันแล้วนะ ที่นี่ยังอยู่ไม่ไกลจากพิกัดไฮไลท์อย่างทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมด้วยจ้า แถมรอบด้านยังรายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งและร้านค้ามากมาย มาที่เดียวเที่ยวได้แบบจัดหนักเลยน้า ไม่มาไม่ได้แล้วเน้อ

12. Hanoi Street Train

แหล่งเช็คอินสุดฮิปกลางเมืองฮานอยที่พลาดไม่ได้ ที่นี่ถือเป็นพิกัดลับที่ชวนให้คิดถึงตลาดร่มหุบเมืองแม่กลองในบ้านเรานิดๆ นะ ต่างกันตรงที่ริมทางรถไฟสายนี้นั้นเป็นบ้านเรือนของผู้คนตลอดเส้นทาง แถมบางหลังยังเปิดเป็นคาเฟ่ชิคๆ ให้เราได้นั่งชิลล์จิบกาแฟแบบคูลๆ ระหว่างรอการมาของขบวนรถไฟ ใครอยากได้รูปโปรไฟล์เท่ๆ ก็มาถ่ายรูปเก๋ๆ ตรงนี้กันได้

13. Tran Quoc Temple

วัดสวยในสไตล์จีนโบราณใจกลางกรุงฮานอย ซึ่งนอกจากจะมีดีที่สถาปัตยกรรมสวยๆ แล้วนะ วัดนี้ยังมีทำเลที่ตั้งซึ่งเหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจ เพราะเป็นวัดซึ่งสร้างยื่นลงไปในพื้นที่ทะเลสาบกว้างโล่งโปร่งสบายตา ไฮไลท์ของวัดนี้คือเจดีย์ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 โน่นเลยจ้า ซึ่งเจดีย์นี้ถือเป็นหนึ่งในเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของประเทศเลยด้วยนะ นอกจากมาไหว้พระขอพรแล้ว ด้านในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวบข้าวของโบราณล้ำค่าให้เราได้มาเดินชมกัน ที่สำคัญคือตรงนี้นับเป็นพิกัดชมพระอาทิตย์ตกที่แจ่มสุดๆ แห่งหนึ่งในฮานอยด้วยจ้า อย่าลืมแวะมาปักหมุดกัน

14. The Old Quarter’s 36 Streets

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อปหรือไม่ ก็ขอบอกไว้เลยว่าพลาดพิกัดนี้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยละ เพราะนี่คือถนนซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 600 ปี ไฮไลท์ของที่เที่ยวเวียดนามเหนือ ถนนเส้นนี้นับเป็นแหล่งขายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดของฮานอยเลยนะ ชื่อถนน 36 สายนั้นได้มาจากการที่โซนนี้มีถนนตัดผ่านแยกออกไปอีก 36 เส้นทางด้วยกัน โดยแบ่งตามการประกอบอาชีพเก่าแก่ในท้องถิ่นนั่นละ แต่ละถนนจึงมีสินค้าเฉพาะอย่างให้ช้อปกันได้แบบจุใจไปเลยจ้า ช้อปเหนื่อยก็ยังมีร้านอาหารให้นั่งกินดื่มกันได้แบบชิลล์ๆ อีกด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่มาฮานอยแล้วอย่าพลาดเชียว

15. Ngoc Son Temple

นี่คือวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นบนเกาะหยกใจกลางทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม นี่จึงเป็นพิกัดที่ต้องมาเช็คอินคู่กันในคราวเดียวเลยละ วัดหง็อกเซินนั้นเป็นวัดเก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ในสถาปัตยกรรมสไตล์เวียดนามแบบดั้งเดิม ตัววัดนั้นเชื่อมต่อกับฝั่งริมทะเลสาบด้วยสะพานไม้สีแดงซึ่งนับเป็นซิกเนเจอร์อีกแห่งของวัดนี้ สมกับชื่อสะพานที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘สะพานแสงอาทิตย์ในยามเช้า’ เลยจ้า นอกจากมากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดแล้วนะ สะพานนี้ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่พลาดไม่ได้เชียวละ นี่คืออีกหนึ่งพิกัดที่ไม่มาก็เหมือนว่ายังไปไม่ถึงฮานอยเลย

นี่เป็นเพียงแค่พิกัดเด็ดๆ ในสองเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเช็คอินกันในเวียดนามเท่านั้นนะ จริงๆ แล้วประเทศนี้ยังมีอีกหลายเมืองให้มาเที่ยวกันได้แบบจุกๆ เลยจ้า เส้นทางฮานอย – ซาปานั้นถือเป็นอีกเส้นทางที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเริ่ดๆ เพียบเลยจ้ะ จะสายธรรมชาติก็เที่ยวได้ สายประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม ก็น่าจะถูกใจไม่น้อยเลย ถ้าใครอยากมาเที่ยวเวียดนาม ก็อย่าลืมมาส่อง มาลองลิสต์ที่เที่ยวเวียดนามเหนือไปเที่ยวกัน