สำหรับสายเที่ยวขี้เบื่อทั้งหลาย ขอเชิญมามุงกันได้ตรงนี้เลยจ้า เพราะวันนี้เรารวบรวมเอาพิกัดเที่ยวไทยใหม่ๆ ที่น่าสนใจแปลกหูแปลกตามาให้ได้เก็บลงลิสต์กันไว้ ใครกำลังตามหาแหล่งเช็คอินเก๋ๆ ที่ยังไม่ช้ำเอาไว้ถ่ายรูปอัพ IG เชื่อว่าต้องมีหลายแห่งเลยละที่โดนใจ หลายพิกัดเพิ่งเปิดตัวให้เราได้รู้จักอย่างเป็นทางการกันไปไม่นานนี้ด้วยนะ ลองปักหมุดลงลิสต์จุดที่ถูกใจกันไว้ แล้วค่อยลิสต์ไปเที่ยวตามกันได้เลย

20 พิกัดสุด Unseen ที่ต้องไป

1. พญานาค 3 พิภพ – มุกดาหาร

แลนด์มาร์คใหม่ในมุกดาหาร ซึ่งบอกเลยว่าสายมูที่นับถือพญานาคต้องปักหมุดกันไว้ให้แน่นเลยจ้า เพราะที่นี่เค้าเล่นใหญ่ด้วยการสร้างพญานาค 3 องค์เอาไว้ต่างสถานที่แต่อยู่ในแนวเส้นลองติจูดเดียวกันเลยนะ เก๋มั้ยล่ะเอ๊อ! โดยพญานาค 3 องค์นี้ เป็นตัวแทนจาก 3 พิภพคือ ดิน น้ำ และฟ้า เพื่อปกป้องเมืองมุกดาหาร โดยมีการใช้สีสันที่แตกต่างกันไปในแต่ละองค์ด้วยจ้า แต่ละองค์ก็จะให้อานิสงส์ที่ไม่เหมือนกันด้วยนะ ไปแล้วต้องมูให้ครบทั้ง 3 องค์จ้า รับรองว่าอลังการสะใจสายมูกันล้านเปอร์เซ็นต์!

2.ม่อนหมอกตะวัน – ตาก

จุดชมวิวสวยแบบ 360 องศาของเมืองตาก ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักกันมาไม่นานเท่าไหร่ แต่บอกได้เลยว่าสวยปังไม่แพ้ใครจ้า เพราะนี่คือยอดเขาความสูงประมาณ 1,100 เมตร ที่มีทุ่งดอกไม้สวยเว่อร์วังอยู่บนลานกว้างด้านบนด้วยนะ มาชมทุ่งดอกไม้สีสดใสพร้อมวิวทิวเขาน้อยใหญ่อยู่ตรงหน้า ในช่วงหน้าฝนถึงหน้าหนาวจะมีทะเลหมอกสีขาวลอยปกคลุมอยู่รอบด้านเลยนะ ดอกไม้ก็สวย ตามมาด้วยหมอกขาวๆ และทิวเขาสุดอลัง เป็นพิกัดสุดปังในเมืองตากที่อยากให้มา!

3.บ้านสามช่อง – พังงา

พิกัดสวยบรรยากาศสบายที่คนหลงใหลการท่องเที่ยววิถีชุมชนต้องแฮปปี้ เพราะที่นี่คือชุมชนชาวมุสลิมเล็กๆ ริมชายฝั่งอ่าวพังงา ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและเรียบง่าย ในละแวกเดียวกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะกันอีกหลายแห่งเลยจ้า ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศสบายๆ ได้พักผ่อนไปพร้อมกับการเรียนรู้วิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่น ไปล่องเรือชมวิวสวยรอบอ่าวพังงา ได้เวิร์คช็อปสนุกๆ กับสารพัดอาชีพของชาวบ้าน ได้ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบสวยจัดจ้านสะใจ ใครชอบสไตล์นี้ก็จัดไปได้เลย

4.สะพานเอกชัย – พัทลุง

นี่คือสะพานที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความยาวประมาณ 5.5 กิโลเมตรทอดข้ามทะเลน้อย เชื่อมต่อระหว่างอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ไปสู่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ตลอดเส้นทางบนสะพานนี้ จะมีวิวธรรมชาติของทะเลน้อยให้ชมกันแบบเต็มตา ตัวสะพานทอดยาวข้ามผืนน้ำกว้างจนดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุดปลายทางกันเลยนะ บนสะพานมีจุดให้จอดรถชมความสวยของทิวทัศน์กันเป็นระยะ อยากฟินกับบรรยากาศโรแมนติกแบบสุดๆ แนะนำให้มาดูพระอาทิตย์ตกกันจากบนสะพานไปเลยจ้า บอกเลยว่าสวยแปลกตาและรับรองว่าต้องประทับใจ

5.เขาล่องเรือตาหมื่น – พิษณุโลก

พิกัดสุดท้าทายแห่งใหม่ของสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย โดยเขาลูกนี้แตกต่างจากภูเขาส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูนสูงชันซึ่งมีผาหินลักษณะแหลมคม การปีนเขาแห่งนี้ต้องมีพรานที่ชำนาญนำทางไปด้วยนะ แต่ละครั้งที่ขึ้นไปก็มีการจำกัดจำนวนคนให้ไม่มากจนเกินไปด้วยจ้า แม้จะมีความสูงไม่มาก แต่ในการปีนก็เรียกได้ว่าต้องใช้ท่ายากกันพอสมควรเลยนะ เพราะในบางจุดก็ต้องระวังคมหินบาด บางจุดต้องไต่เชือกขึ้นไป ใครอยากนอนค้างเค้าก็มีแคร่และเปลให้บริเวณด้านบนด้วยจ้ะ พิกัดนี้มาแรงมากนะ

6.วัดบูรพาภิราม – ร้อยเอ็ด

พิกัดเด็ดที่สายบุญต้องห้ามพลาด กับการมากราบขอพรองค์พระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่วัดนี้มีองค์พระพุทธรัตนมงคลมหามุนีหรือหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งชาวร้อยเอ็ดเลื่อมใสศรัทธา ด้วยความสูงประมาณ 60 เมตร ทำให้สามารถสังเกตเห็นวัดนี้กันได้ในระยะไกล ผู้คนในท้องถิ่นยังเชื่อกันว่าการได้มากราบหลวงพ่อใหญ่องค์นี้จะก่อให้เกิดอานิสงส์ผลบุญสูงเทียมฟ้า อธิษฐานอะไรก็จะสมหวัง จะปังสมใจจริงมั้ย ต้องแวะไปลอง

7.แกรนด์ แคนยอน – ราชบุรี

จุดเช็คอินใกล้กรุงเทพฯ ที่คนรักการถ่ายรูปพลาดไม่ได้ กับกลุ่มภูเขาดินขนาดใหญ่หลายรูปแบบที่รายล้อมแอ่งน้ำสีฟ้าใส ให้อารมณ์คล้ายกับเราได้วาร์ปไปอยู่ในรัฐแอริโซน่า หลายคนจึงขนานนามว่าเป็นแกรนด์ แคนยอนของเมืองราชบุรีเค้าละ แนะนำว่าช่วงเย็นจะชิลล์สุดนะ เพราะแดดไม่จัดจนเกินไป อยากได้รูปเก๋ๆ ก็มีมุมเด็ดให้เก็บกันได้แบบจุกๆ เลยจ้า จะให้เริ่ดเตรียมพร็อพและคอสตูมแบบจัดเต็มกันมาเลยนะ แต่ที่ต้องระวังก็คือพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของเอกชนเค้าจ้า ตรงไหนห้ามเข้าไปก็อย่าฝืนล่ะ จะได้แชะรูปกันแบบปลอดภัย

8.ถ้ำแม่ละนา – แม่ฮ่องสอน

นี่คือพิกัดที่สายแข็งรักความแอดเวนเจอร์ต้องปักหมุดไป กับการพิชิตถ้ำที่มีความยาวด้านในถึง 12.7 กิโลเมตรซึ่งยาวที่สุดในเอเชียกันเลยจ้า ด้านในถ้ำมีน้ำตกเล็กๆ และหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ที่สวยงามแปลกตา ตลอดเส้นทางมีลำน้ำแม่ละนาไหลยาวทอดตัวอยู่ด้านใน มีหินไข่มุกถ้ำให้เราได้เห็นกันในระยะประชิดเลยด้วยนะ ถ้ำนี้เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์เดินถ้ำระดับมืออาชีพจ้า แถมยังต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมด้วยนะ เพราะการพิชิตถ้ำนี้ต้องเดินกันไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมงจ้ะ แล้วฟิตร่างรอไว้เลยน้า รับรองว่าสะใจ!

9.สวนพฤกษศาสตร์ – ระยอง

เชื่อว่าสายเขียวต้องถูกใจสิ่งนี้! เพราะเป็นพิกัดที่เดินทางง่ายและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วยจ้า สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดถึง 2,500 ไร่ โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ด้านในมีพืชพรรณสารพัดชนิดซึ่งหลายอย่างนั้นใกล้สูญพันธุ์กันเต็มทีแล้วด้วยจ้า ใครรักกิจกรรมเอ๊าท์ดอร์ต้องถูกใจแน่นอนเชียวละ เพราะเค้ามีทั้งการพายเรือคายัค ปั่นจักรยาน ล่องเรือชมธรรมชาติ และอื่นๆ อีกมากมาย ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือการไปชมแพหญ้าหนังหมาและป่าเสม็ดพันปี บอกเลยว่าเป็นพิกัดที่ถ่ายรูปออกมาได้เทพนิยายมากจ้า ใครอยากได้รูปโปรไฟล์ใหม่ๆ ไม่โหล ปักหมุดมาด่วนๆ เลย

10.วัดหลวงขุนวิน – เชียงใหม่

วัดเล็กๆ กลางผืนป่าซึ่งการเดินทางมาถือว่าไม่ง่าย แต่มีความน่าสนใจอยู่ที่การเป็นวัดเก่าแก่ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าสร้างขึ้นในยุคไหน ตัววัดเป็นอาคารไม้ที่มีการแกะสลักอ่อนช้อยงดงามแปลกตา ทั้งตัวศาลาและพระอุโบสถซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน วัดนี้มีพระอุโบสถสองหลัง คืออุโบสถพระยืนปางจงกรมแก้วและอุโบสถพระนอนปางปรินิพพาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักที่งดงามหาชมได้ยาก มีบันไดนาคที่สวยแปลกตา มีเจดีย์ซึ่งด้านในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้ ทุกจุดในวัดนั้นงดงามน่าประทับใจ คุ้มค่ากับการไปชมให้เห็นด้วยตากันแน่นอน

11.อ่างเก็บน้ำเขาระกำ – ตราด

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้รอบด้าน นอกจากจะได้มาชมธรรมชาติสวยสบายตากันแล้วนะ ที่นี่ยังมีไฮไลท์เป็นองค์พระจมน้ำที่อยู่ห่างจากสันเขื่อนมาประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านรู้จักกันในนามพระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย ที่เราสามารถพายคายัค พายซับบอร์ด หรือล่องเรือไปไหว้พระในอารมณ์แบบใหม่ที่สวยขรึมขลังแปลกตา ช่วงพีคที่น้ำจะท่วมองค์พระสูงสุดนั้นอยู่ราวเดือนตุลาคมนะ ใครรักกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยากแชะรูปสวยๆ ในโลเกชั่นแปลกตา ต้องมาที่นี่เลย!

12.ถ้ำสีฟ้า – ตาก

ถ้าอยากได้รูปในโลเกชั่นสวยแปลกตาเหมือนหลุดมาจากหนังผจญภัยแฟนตาซี แนะนำให้ปักหมุดที่นี่ไว้เลยจ้ะ เพราะเป็นถ้ำซึ่งมีผนังหินลวดลายสวยแปลกตาสีฟ้าอมเทาเป็นวอลเปเปอร์ลายเก๋จากฝีมือธรรมชาติเค้าละ นอกจากความสวยแล้ว ถ้ำนี้ยังมีข้อดีตรงที่เดินทางง่ายเพราะเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์เลยนะ เส้นทางในถ้ำก็มีความยาวแค่ราวๆ 100 เมตรเท่านั้นจ้า อยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้พกไฟส่วนตัวกันมาด้วยนะ แค่นี้ก็จะได้รูปเจ๋งๆ ไปอัพ IG กันแล้วเด้อ

13.วัดพระธาตุหนองบัว – อุบลราชธานี

วัดสวยแห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ องค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีมะเส็งที่จำลองแบบมาจากองค์เจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย ซึ่งนับเป็นองค์เจดีย์ที่งดงามอลังการทั้งด้านนอกและด้านใน ใกล้กันยังมีรูปปั้นของท่านปู่กริชกรกตและท่านย่ามณีเกตุ ซึ่งเป็นพญานาคฉัพยาปุตตะหรือพญานาคสีรุ้ง 1 ใน 4 ของพญานาคตระกูลใหญ่ บอกได้เลยว่างดงามอลังการน่าประทับใจสุดๆ จ้า สายมูรีบมาขอพรกันได้เลย

14.เกาะผ้า – พังงา

เกาะเล็กๆ สุดน่ารักลักษณะราบเรียบเหมือนผืนผ้ากลางทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นพิกัดลับที่ไม่ได้มีให้เที่ยวกันตลอดเวลา เพราะเกาะนี้จะโผล่มาเฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้นนะ ช่วงที่น้ำลดสุดๆ นั้น เกาะนี้จะมีเนื้อที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นจ้า ทีเด็ดของที่นี่อยู่ตรงที่เม็ดทรายขาวละเอียดเดินนุ่มเท้าสวยสบายตา เมื่อเจอกับน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วจึงกลายเป็นวิว Unseen ที่เหมาะจะมาเช็คอินกันซักครั้งเลยละ ว่ากันว่าหากโลกร้อนจนน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ เกาะนี้อาจจะจมหายไปวันหนึ่งข้างหน้าก็ได้นะ อย่าช้าจ้ะ รีบมาก่อนจะสายไปเด้อ

15.ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง – ยะลา

พิกัดสวยสุด Unseen ของเมืองใต้สุดอย่างยะลา จุดชมทะเลหมอกแห่งนี้อยู่ห่างจากอำเภอเบตงแค่ 40 กิโลเมตรเองจ้า เป็นสกายวอล์คยื่นยาวออกไปกลางอากาศบนความสูงประมาณ 2,038 เมตร ที่มีพื้นกระจกยาว 61 เมตรให้ได้ชมความสูงแบบเสียวๆ ไปพร้อมกัน ที่เริ่ดก็คือทะเลหมอกที่นี่นั้นมีให้ชมกันเกือบตลอดทั้งปีเลยละ เดือนเมษายนก็ยังมาดูทะเลหมอกกันได้ด้วยนะ เก๋ไม่เก๋ล่ะ? คิดดู!

16.ถ้ำดินเพียง วัดถ้ำศรีมงคล – หนองคาย

ในยุคที่การมูทั้งหลายมาแรงสุดๆ อย่างในตอนนี้ บอกเลยว่านี่คงเป็นอีกพิกัดที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะใครที่นับถือพญานาคบอกเลยว่ายิ่งต้องมา เพราะที่นี่เป็นถ้ำใต้ดินซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเส้นทางซึ่งพญานาคใช้เชื่อมต่อกับนครบาดาลในแม่น้ำโขงนั่นเองจ้า ภายในถ้ำมีทางเดินเป็นโพรงยาวและมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา มีช่องแคบที่อาจจะต้องใช้การมุดหรือลอดเข้าไป ด้านในมีการตกแต่งด้วยสีสันจากแสงไฟให้ความสวยลึกลับแปลกตา การเข้าถ้ำนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางมาด้วยเพื่อความปลอดภัยนะ ใครเป็นสายมูปักหมุดมาให้ไวเลยเชียว

17.วัดพระธาตุดอยพระฌาน – ลำปาง

อีกหนึ่งวัดสวยน่าประทับใจบนดอยพระฌาน ซึ่งมีทั้งวิวสุดปังของทะเลหมอกยามเช้าในช่วงปลายฝนจนถึงต้นหนาวให้ดูกัน นอกจากความอลังการของงานแกะสลักไม้ที่ละเอียดลออเดินดูกันได้แบบน่าตื่นใจแล้วนะ ที่วัดนี้ยังมีโซนที่สร้างขึ้นในบรรยากาศแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นให้เราได้ไปเช็คอินกันด้วยจ้า ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า และองค์พระใหญ่ไดบุตสึบนไหล่เขา ก็จำลองออกมาเหมือนเราได้ไปยืนอยู่ในแดนปลาดิบยังไงยังงั้นเลยเชียวละ มาไหว้พระก็ดี มาถ่ายรูปเช็คอินก็ฟินจ้ะ

18.ดอยตาปัง – ชุมพร

หลายคนบอกว่านี่คือดินแดนอวตารแห่งภาคใต้! ก็เพราะที่นี่มีวิวสวยๆ ของเทือกเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาขนาดใหญ่ ซึ่งกระจายตัวโดดเด่นขึ้นมาจากพื้นราบกว้างไกลสุดสายตา จุดชมวิวแห่งนี้อยู่บนความสูงประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลนะ ทางขึ้นต้องใช้รถรับ – ส่งของชาวบ้านซึ่งชำนาญพื้นที่ในการขึ้นไป ไฮไลท์สุดๆ จะอยู่ในช่วงเช้า ซึ่งในวันที่อากาศเป็นใจจะมีทะเลหมอกแบบอลังการให้ชมกันด้วยจ้า จะเลือกมาชิลล์แค่ชมวิวสุดปังตอนเช้าก็ได้ หรือจะมากางเต็นท์นอนดูดาวรับลมกันให้จุใจซักคืนก็ฟินเชียวละ ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นเลยจ้ะ ตามสบาย

19.เกาะไข่ใน – พังงา

เกาะสวยในเขตจังหวัดพังงา แต่กลับเดินทางได้ง่ายกว่าเมื่อมาจากภูเก็ตนะ แม้จะไม่ได้เป็นเกาะขนาดใหญ่โตอลังการ แต่เกาะไข่นั้นมีชายหาดขาวๆ ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วราวกับคริสตัลที่คนรักทะเลจะได้ฟินกันสุดๆ เลยละ จะมาเล่นน้ำ ดำน้ำ ถ่ายรูป อาบแดด ขับเจ็ทสกี หรือพายคายัค ที่นี่ก็มีให้บริการกันแบบครบครัน ใครไม่ชอบอยู่กลางแจ้งแนะนำให้มานั่งเล่นกับบรรดาน้องแมวบนเกาะนี้ได้เลยจ้า เหมือนได้มาคาเฟ่แมวกลางทะเลยังไงยังงั้นเลยเชียวนะ ฟินได้พร้อมกันเลยละ ทั้งคนรักธรรมชาติและทาสแมว!

20.ทุ่งกะมัง – ชัยภูมิ

เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยากให้สายธรรมชาติแวะมาเช็คอินกันให้ได้ กับทุ่งกว้างซึ่งให้บรรยากาศซาฟารีในสไตล์ไทยๆ แห่งนี้จ้า ทุ่งกะมังนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ โดยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรอบด้าน ในขณะที่ส่วนตรงกลางนั้นเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งมักจะมีเก้ง กวาง เนื้อทราย และนกนานาชนิดออกมาปรากฏกายให้เราได้ชมกัน จะเลือกมาเดินชมวิวก็ได้ หรือจะขับรถเข้าไปชมตามเส้นทางที่มีให้ก็ชิลล์จ้า เชื่อว่าสายเขียวน่าจะเพลิน

ทั้งหมดนี้คือพิกัด Unseen ในเมืองไทยที่เรารวบรวมมาไว้ให้ลงลิสต์ปักหมุดกัน หลายแห่งนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ทำความรู้จักนะ แต่มั่นใจเลยละว่าต้องมีหลายจุดที่น่าจะตรงสเป็คคุณแน่นอนจ้า พิกัดอเมซิ่งในเมืองไทยนั้นไม่ไปไม่รู้จริงๆ นะ เพราะฉะนั้นอย่าช้าจ้ะ รีบออกมาเที่ยวกันให้ไว!